ผลการรักษาผู้ป่วย TTT Result


  • Slide005.jpg
    คำอธิบาย ฺBefore D0 = ก่อนการรักษา After Day 5 = หลังการรักษา 5 วัน After M1D1 = หลังการรักษา 1 เดือน 1 วัน After Y1M1D1 = หลังการรักษา 1 ปี 1 เดือน 1 วัน

  • แขนบวม.jpg
    ตัวอย่างภาพผู้ป่วยบวมน้ำเหลือง ก่อน-หลังบำบัดขันชะเนาะ 5 วัน Lymphedema Patients Before (Day 0) and After Treatment (Day 5)
ผลจากการใช้วิธีขันชะเนาะลดบวม 
 
     จากการเก็บข้อมูลวิจัยระหว่างปี พ.ศ. 2549 - 2556 พบว่าภายหลังจากการบำบัดรักษาผู้ป่วยบวมน้ำเหลืองจำนวน 599 คน (ผู้ป่วยแขนบวม 287 คน, ผู้ป่วยขาบวม 312 คน เฉพาะที่มีอาการบวมข้างเดียว Unilateral Lymphedema) ด้วยวิธีการขันชะเนาะเป็นระยะเวลา 5 วัน โดยขันชะเนาะที่แขนหรือขาข้างที่บวม แล้วนำผลมาเปรียบเทียบกับแขนหรือขาข้างที่ไม่บวมของผู้ป่วยคนเดียวกันนั้น พบว่าสามารถลดอาการบวมที่แขนและขาให้ยุบลงได้ โดยเฉลี่ยถึง 49.5% (441 mL) และ 54.3% (1,826 mL) ตามลำดับ
 

         ภายหลังจากผู้ป่วยบำบัดรักษา ด้วยวิธีขันชะเนาะเป็นระยะเวลา 5 วัน ถ้าหากอาการบวมน้ำเหลืองยังไม่หายหมด ผู้ป่วยสามารถนำอุปกรณ์ขันชะเนาะไปใช้เองที่บ้านต่อได้ โดยเจ้าหน้าที่จะแนะนำวิธีการใช้งานที่ถูกต้อง และข้อควรระวังต่างๆ เพื่อไม่เกิดข้อผิดพลาด หรืออันตรายใดๆต่อไป    

         การรักษาโรคบวมน้ำเหลือง ผู้ป่วยจำเป็นต้องปฏิบัติตามที่แพทย์แนะนำ เนื่องจากเป็นโรคที่ต้องดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง เช่น ต้องใส่ถุงน่องน้ำเหลืองเป็นประจำเพื่อควบคุมและลดอาการบวมช่วงการใช้ชีวิตประจำวัน หลีกเลี่ยงของแสลงหรืออาหารแสลงที่มักพบว่าทำให้เกิดอาการซ้ำเติมอีก เช่น ไข้น้ำเหลือง อาการหนาวสั่นอย่างเฉียบพลัน อาการบวมสามารถกลับมาขึ้นมาเป็นอีกได้ เป็นต้น

 

ตัวอย่างผู้ป่วยที่ยินดีให้เปิดเผยข้อมูล

คุณแจ้ ตุ้มจู ป่วยเป็นโรคบวมน้ำเหลืองมานานนับ 10 ปี ภายหลังจากการผ่าตัดมะเร็งปากมดลูก หนังสือพิมพ์นำไปลงข่าวว่าเป็นโรคประหลาด รักษาไม่หาย ทีมวิจัยการบำบัดโรคบวมน้ำเหลือง ได้มีโอกาศใช้วิธีการขันชะเนาะ รักษาป้าแจ้อยู่ 4 เดือน สามารถทำให้ขาลดลงได้ หลังจากรักษา ป้าแจ้ดีใจมาก บอกว่าเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ มีชีวิตใหม่ สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ ตามปกติเหมือนคนทั่วไป 

 
 
 
Visitors: 262,857